Worksheet_4_Interesting
Interesting
[Red Cabbage]
💎 สวัสดีชาว Blogger ทุกคน เราได้รวบรวมเรื่องน่าสนใจ เพื่อประกอบการทำโครงงานของเรา ใครสนใจก็อ่านได้นะ 💎
บทความ : เรื่อง กะหล่ำปลีแดง (Red Cabbage)
ชื่อวิทยาศาตร์ว่า Brassica oleraceae var. rubra
เป็นพืชล้มลุกสองปี มีลักษณะคล้ายกะหล่ำปลีธรรมดาแต่มีสีแดง เนื่องจากใบมีสาร anthocyanin จำนวนมาก ลักษณะลำต้นสั้นมาก ใบเดี่ยวสีแดง หนา และมีนวล ใบเรียงตัว สลับซ้อนกันแน่นหลายชั้น เรียงแน่น หัวกลมหรือค่อนข้างกลม ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
ดิน
กะหล่ำปลีแดงสามารถขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิด โดยเฉพาะดินที่มีลักษณะโป่ง และร่วนซุย มีความชื้นในดิน และมีค่าความเป็นกรด-ด่าง อยู่ในช่วง 6-6.5
อุณหภูมิ
สำหรับอุณหภูมิที่เหมาะสม สำหรับการเจริญเติบโตของกะหล่ำปลีแดงนั้นอยู่ระหว่าง 15-20’C หากอุณหภูมิสูงกว่า 25’C อัตราการเจริญและผลผลิตจะลดลง อย่างไรก็ตามระดับอุณหภูมิอาจมีผลกระทบแตกต่างกันบ้าง เล็กน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์
การให้น้ำ
ควรให้น้ำอย่างเพียงพอ เนื่องจากกะหล่ำปลีเป็นพืชที่ต้องการความชื้นในดินมาก ระยะที่กะหล่ำปลีต้องการน้ำมากที่สุ ได้แก่ ระยะเริ่มห่อปลีและระยะการเจริญเติบโตเต็มที่
การให้น้ำ
ควรให้น้ำอย่างเพียงพอ เนื่องจากกะหล่ำปลีเป็นพืชที่ต้องการความชื้นในดินมาก ระยะที่กะหล่ำปลีต้องการน้ำมากที่สุ ได้แก่ ระยะเริ่มห่อปลีและระยะการเจริญเติบโตเต็มที่
การใช้ประโยชน์และคุณค่าทางอาหารของกะหล่ำปลีแดง
กะหล่ำปลีแดง เป็นพืชที่มีเยื่อใยอาหารสูง และอุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารหลายชนิด เช่น โปรตีน (สาร indols ซึ่งเป็นผลึกที่แยก มาจาก trytophan; กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย) คาร์โบไฮเดรต โซเดียม วิตามินซีซึ่งพบค่อนข้างมากกว่ากะหล่ำปลีสีเขียวถึง สองเท่า ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน มีสารซัลเฟอร์(Sulfer) ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่ และต้านสารก่อ มะเร็งที่เข้าสู่ร่างกาย การกินกะหล่ำปลีบ่อยๆ จะช่วยลดโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคมะเร็งในช่องท้อง ลดระดับคลอเรสเตอรอล ละช่วยงับประสาท ทำให้นอนหลับดี น้ำกะหล่ำปลีคั้นสดๆ ช่วยรักษาโรคกะเพาะ อย่างไรก็ตาม กะหล่ำปลีมีสารชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า goitrogen เล็กน้อย ถ้าสารนี้มีมากจะไปขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ ทำให้นำไอโอดีนในเลือดไปใช้ได้น้อย ดังนั้นไม่ควร กินกะหล่ำปลีสดๆ วัยละ 1-2 กก. แต่ถ้าสุกแล้วสาร goitrogen จะหายไป
ที่มา : ฐานข้อมูลพืชผัก บทความเกษตร
ทีมวิจัยอันประกอบด้วยนส. วรางคณา เขาดี ผศ.ดร. วัลภา เอื้องไมตรีภิรมย์ และศ.ดร. ธวัชชัย ตันฑุลานิ ได้นำสาร cyanidin ซึ่งสกัดจากกระหล่ำปลีม่วงไปใช้ในการตรวจหาไอออน Cu(II) Pb(II) Al(III) และ Fe(III) แบบเห็นผลได้ด้วยตาเปล่าทั้งในเชิงคุณภาพวิเคราะห์และปริมาณวิเคราะห์
สารละลาย cyanidin ซึ่งสกัดจากกระหล่ำปลีม่วงสามารถนำไปใช้ในการตรวจหาไอออน Cu(II) Pb(II) Al(III) และ Fe(III) โดยอาศัยการเกิดสารประกอบเชิงซ้อนและการเปลี่ยนสีตามสภาวะกรด-เบสแบบเห็นผลได้ด้วยตาเปล่าทั้งในเชิงคุณภาพวิเคราะห์และปริมาณวิเคราะห์ โดยมีค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถตรวจหา Cu(II) Pb(II) Al(III) และ Fe(III) เป็น 50 μm 80 μm 50 μm และ 200 μm ตามลำดับ
ที่มา : ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์
บทความ : เรื่อง การตรวจวัดอะลูมิเนียมไอออนอย่างง่ายด้วยเทคนิคการสังเกตด้วยตาเปล่า โดยใช้สารสกัดจากดอกชบาแดง
จากงานวิจัยของคุณสุนันทา ข้องสายและคณะซึ่งทำเกี่ยวกับการตรวจวัดอะลูมิเนียมไอออนอย่างง่ายด้วยเทคนิคการสังเกตด้วยตาเปล่าโดยใช้สารสกัดจากดอกชบาแดง ได้พัฒนาวิธีการตรวจวัดโลหะ Al3+ที่ระดับความเข้มข้นต่างๆ ด้วยเทคนิคการสังเกตด้วยตาเปล่าโดยใช้สารสกัดจากดอกชบาแดงเป็นตัวทำให้เกิดสารเชิงซ้อน ผลสารสกัดจากดอกชบาแดงเปลี่ยนสี
เราจึงนำกะหล่ำปลีสีแดงมาประยุกต์ใช้แทนดอกชบาสีแดง โดย การนำมอสมาทดสอบกับสารสกัดจากกะหล่ำปลีสีแดง ซึ่งผลการทดลองเป็นไปได้ด้วยดี สารสกัดจากกะหล่ำปลีสีแดง เปลี่ยนสี เช่นเดียวกับ สารสกัดจากดอกชบาแดง จึงทำให้ได้ผลว่า กะหล่ำปลีสีแดงสามารถตรวจสอบความเป็นโลหะหนักในมอสได้
บทความ : เรื่อง Cyanidin
Cyanidin เป็นสารประกอบธรรมชาติ เป็นองค์ประกอบประเภทหนึ่งใน AntoCyanin เป็นรงควัตถุที่พบในผลไม่ตระกูลเบอร์รี่ที่มีสีแดงและม่วง เช่น องุ่น,bilberry,blueberry,cherry,cranberry,elderberry,hawthorn,loganberry acai และ raspberry และยังพบอีกในพืชผักชนิดต่างๆ อาทิเช่น แอปเปิ้ล กะหล่ำปลีแดง และ หอมแดง เป็นลักษณะเฉพาะของสีที่คอนข้างแดง โดยสามารถเปลี่ยนสีตามค่า pH ได้ กล่าวคือสารละลายของสารประกอบจะมีสีแดง มีค่า pH ประมาณ 7-8 ในผักผลไม้ชนิดที่กล่าวข้างต้น จะมีความเข้มข้น ของ Cyanidin สูงในส่วนของเมล็ดและผิว
Quizclick EP.14 - น้ำกะหล่ำปลีม่วงเปลี่ยนสี
Quizclick EP.14 - น้ำกะหล่ำปลีม่วงเปลี่ยนสี - เฉลย แอมโมเนีย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น